ทีมงาน PADI Travel ประกอบด้วยนักดำน้ำที่มีประสบการณ์และมืออาชีพของ PADI ที่ได้สำรวจสถานที่ดำน้ำ

มามากกว่า 60 แห่งทั่วโลก พวกเขาเป็นเลิศในการช่วยเหลือนักดำน้ำและนักเดินทางในการค้นหาสถานที่ดำน้ำ

ที่สอดคล้องกับระดับทักษะ งบประมาณและความคาดหวังของพวกเขา ในบทความนี้ เราได้รวบรวมจุดหมาย

ปลายทางการท่องเที่ยวเพื่อการดำน้ำ 10 แห่ง (พร้อมทั้งโบนัส!) จาก PADI Travel Experts ที่จะช่วยให้คุณ

ค้นพบการผจญภัยดำน้ำครั้งต่อไปของคุณ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางใต้น้ำสุดพิเศษพร้อมคำแนะนำ

จากผู้เชี่ยวชาญ!

Great Barrier Reef from bird view

1. ออสเตรเลีย – ควีนส์แลนด์ (Queensland)

ด้วยแนวปะการังที่ยาวเกือบ 3,000 กม. (1864 ไมล์) ควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย นำเสนอโลก

ใต้น้ำที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่มีชีวิตชีวา นักดำน้ำสามารถสำรวจแนวปะการัง ถ้ำและซากเรือ

อับปางที่ผสมผสานกัน นอกเหนือจาก Great Barrier Reef ที่มีชื่อเสียงแล้ว เมือง Cairns ทางตอนใต้

ยังมีภูมิประเทศใต้น้ำที่ขรุขระ ซึ่งนักผจญภัยที่โชคดีจะได้สัมผัสประสบการณ์ใกล้ชิดกับกระเบนนก

และกระเบนราหู หมึก ฉลามแนวปะการัง ฉลามหัวค้อนและปลาทูน่าเขี้ยวหมา (Dogtooth Tuna)

หากคุณสนใจในซากเรือที่จมลงใต้น้ำ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโสของ PADI Travel ทอม ปารีส (Tom

Paris) แนะนำซากเรือ Yongala ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใจกลางของอุทยานทางทะเล Great Barrier Reef

เขากล่าวว่า “Yongala เป็นซากเรือที่จมอยู่นอกชายฝั่ง Ayr รัฐควีนส์แลนด์ จมลงในพายุเฮอริเคน

เมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว โดยเกาะอยู่บนพื้นที่ราบระหว่างแนวปะการังและชายฝั่งที่ระดับความลึก 25-30

เมตร (82-100 ฟุต) ตำแหน่งที่เป็นเอกลักษณ์ของมันทำให้เกิดกระแสน้ำที่แรง แต่ซากเรือนั้นได้กลาย

มาเป็นแนวปะการังเทียมและสถานีทำความสะอาดของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ในระหว่างการดำน้ำของฉัน

ฉันเห็นกระเบนลายหินอ่อน (Marble Ray) 6 ตัวร่อนไปตามกระแสน้ำอย่างสง่างาม เห็นการมาเยี่ยม

อย่างเซอร์ไพรส์จากฉลามหัวบาตรที่ว่ายขึ้นมาจากด้านหลังของฉัน กระเบนโรนัน เต่ากินหญ้าอย่าง

สงบในสวนปะการังบนซากเรือ และฉลามพยาบาลสีเทางีบหลับอยู่ข้างใน มันสุดยอดจริงๆ!”

Beautiful reef photo with vibrant colored marine life
แนวปะการังหลากสีสันในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย

ที่ควีนส์แลนด์นั้นมีกิจกรรมดำน้ำตลอดทั้งปี โดยมีอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 71- 87°F (22-29°C) การเยี่ยมชม

ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายนจะให้สภาพการมองเห็นที่ดีมากและมีโอกาสสูงที่จะได้เห็นกระเบน

ฉลาม และวาฬมิงค์แคระ ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเมษายน นักดำน้ำสามารถชมกระเบนราหูกินแพลงก์ตอน

และจะได้ชมฉลามเสือดาว เต่าทะเล โลมา และปลาเขตร้อนอีกมากมาย นอกจากนี้ ช่วงเดือนกรกฎาคม

ถึงพฤศจิกายนเป็นโอกาสพิเศษในการชมวาฬหลังค่อมอพยพ


2. แคริบเบียน – โบแนร์

โบแนร์ ซึ่งเป็นเกาะในแคริบเบียนของเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเวเนซุเอลาทางตอนใต้

ของแคริบเบียน จุดหมายปลายทางแห่งนี้มีชื่อเสียงมานานกว่า 35 ปีในด้านการอนุรักษ์ทางทะเลและ

เป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพอันน่าอัศจรรย์ โดยมีปลามากกว่า 470 สายพันธุ์ โบแนร์

เป็นสถานที่ดำน้ำจากชายฝั่งชั้นนำที่มีแนวปะการังที่มีชีวิตชีวาและสัตว์ทะเลนานาชนิด สถานที่ดำน้ำ

ที่เกาะแห่งนั้นไม่มีกระแสน้ำซึ่งเป็นสิ่งที่พิเศษ ทำให้เป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการได้รับประกาศนียบัตร

การดำน้ำใบใหม่ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกลงเรือหรือดำน้ำจากชายฝั่งได้ โดยมีรีสอร์ทหลายแห่งที่

สามารถเข้าถึงแนวปะการังนอกชายฝั่งอันน่าทึ่งได้อย่างง่ายดาย ผู้ที่ต้องการที่จะสำรวจพื้นที่ห่างไกล

ของอุทยานแห่งชาติทางทะเลโบแนร์อาจจองการดำน้ำจากเรือดำน้ำในท้องถิ่น

Female diver smiling at the camera underwater with a santa hat
ภาพโดยมิเชล ซัลลิแวน (Michelle Sullivan)
Diver looking at a coral underwater
ภาพโดยมิเชล ซัลลิแวน (Michelle Sullivan)

“โบแนร์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางเพื่อการดำน้ำชั้นนำของโลกอย่างต่อเนื่อง

และเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ในฐานะครูผู้สอนที่ทำงานในโบแนร์ในปี 2022 ฉันสนุก

กับการแบ่งปันความสวยงามของมันกับลูกค้า ด้วยน้ำทะเลแคริบเบียนที่ใสดุจคริสตัล อุณหภูมิตั้งแต่

80-85°F (26-29°C) คุณสามารถเห็นเต่าตนุและเต่ากระได้ อีกทั้งปลาไหลหลากหลายชนิด กระเบนลาย

จุด ม้าน้ำจมูกยาว ปลาตามแนวปะการังหลากสีสันนับร้อย และ ฝูงโลมา!  Salt Pier หนึ่งในถานที่

ดำน้ำจากชายฝั่งชั้นนำของโลก มีปลาและสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด ด้วยสถานที่ดำน้ำมากกว่า 100

แห่งที่สามารถเข้าถึงได้จากชายหาด โบแนร์มอบประสบการณ์การดำน้ำที่น่าทึ่ง อารูบาและคูราเซานั้น

ยอดเยี่ยมมาก แต่อย่าพลาดโอกาสดำน้ำในโบแนร์ที่สวยงาม!”  มิเชล ซัลลิแวน PADI Travel Expert

กล่าว

ฤดูแล้งตั้งแต่เดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน มีสภาพอากาศที่เหมาะสม โดยมีปริมาณฝนเล็กน้อย สภาพ

ทะเลที่คงที่และสงบ และมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 84°F (29°C) ในทะเล และ 89°F (31°C) ในอากาศ

ช่วงเวลานี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบทั้งชายหาดและการดำน้ำ ไม่ว่าฤดูกาลจะเป็นเช่นไร โบแนร์ก็จะมอบ

ประสบการณ์การดำน้ำที่ยอดเยี่ยมตลอดทั้งปีเนื่องมาจากสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่สม่ำเสมอ


Shark laying on the ground.
ฉลามนอนอยู่บนพื้นทะเลใกล้เกาะโคโคส ประเทศคอสตาริกา ภาพโดยแดเนียล ชมิด (Daniel
Schmid)

3. คอสตาริกา – เกาะโคโคส

อัญมณีใจกลางคอสตาริกา เกาะโคโคสมอบประสบการณ์การดำน้ำที่ไม่มีใครเทียบได้ หากต้องการ

สำรวจชีวิตใต้น้ำอันอุดมสมบูรณ์ของเกาะนี้ เราต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางโดยเรือลีฟอบอร์ด

8 ถึง 10 วันจากเมืองท่าปุนตาเรนัส (Puntarenas) การไปถึงเกาะโคโคสอาจใช้ระยะเวลานานถึง

36 ชั่วโมง แต่การเดินทางก็คุ้มค่าทุกนาที เนื่องจากกระแสน้ำและคลื่นเซิร์จที่แรงของเกาะ เกาะ

แห่งนี้จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับนักดำน้ำระดับ Advanced Diver สถานที่ดำน้ำที่

ประกอบด้วยหินก้อนใหญ่ ๆ กองหินใต้น้ำ และภูเขาใต้ทะเลเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับการสำรวจ

“ฉันโชคดีที่ได้ไปเยือนเกาะโคโคสในเดือนพฤศจิกายน 2022 และฉันสามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่านี่เป็น

ทริปที่ดีที่สุดที่ฉันเคยไปมา” PADI Travel Expert อเล็กซานดรา เอนเกเลอร์ (Alexandra Engeler)

กล่าว “เรือ Okeanos Aggressor liveaboard ล่องผ่านระยะทาง 540 ไมล์ทะเล (1,000 กม.) นอก

ชายฝั่งคอสตาริกาอย่างง่ายดาย ที่มอบประสบการณ์การดำน้ำระดับสุดยอดพร้อมแนวปะการังที่บริสุทธิ์

และยังคงสภาพสมบูรณ์ สภาพแวดล้อมใต้น้ำในเกาะโคโคสยังคงไม่ถูกรบกวนและได้รับการอนุรักษ์ไว้

เป็นอย่างดี เนื่องจากตั้งอยู่ห่างไกลและมีผลกระทบจากมนุษย์ที่จำกัด โดยอนุญาตให้มีเรือนักดำน้ำได้

เพียง 1 ลำเท่านั้นในแต่ละจุดดำน้ำ ทำให้เกิดดินแดนมหัศจรรย์ท่เป็นส่วนตัวที่เต็มไปด้วยสัตว์ทะเล

ขนาดใหญ่ เช่น ฉลามหัวค้อน ฉลามเสือและกระเบนราหู การดำน้ำแต่ละได๊พ์จะทำให้คุณแทบหยุด

หายใจ ด้วยกระแสน้ำที่เชี่ยวซึ่งเปลี่ยนการดำน้ำในกระแสน้ำให้กลายเป็นการเผชิญหน้าที่น่าหลงใหล

กับสิ่งที่เป็นเหมือนสายพานลำเลียงสัตว์ทะเล ตะขอสำหรับแนวปะการังช่วยให้คุณได้ดื่มด่ำกับความเวิ้ง

ว้างของแต่ละสถานที่ ในขณะที่สิ่งมีชีวิตมาโครที่น่าทึ่งอาศัยอยู่ทุกซอกทุกมุม ฉันไม่สามารถแนะนำ

สถานที่ดำน้ำแห่งนี้ได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว เป็นประสบการณ์ที่ทำให้คุณพูดไม่ออกและอยากแบ่งปัน

กับทุกคน!”

Two divers smiling to the camera underwater.
อเล็กซานดราและซาสชา เอนเกเลอร์ดำน้ำที่เกาะโคโคส ภาพโดยแดเนียล ชมิด (Daniel Schmid)

ด้วยอุณหภูมิของน้ำอยู่ระหว่าง 24-29°C (75-84°F) ตลอดทั้งปี คุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับการดำน้ำ

ได้ตลอด อย่างไรก็ตาม ฤดูแล้งตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด แม้ว่าฝน

จะยังคงตกก็ตาม สภาพการมองเห็นจะดีที่สุดในช่วงเดือนนี้ หากคุณอยากพบกับกระเบนราหูและฉลาม

วาฬ ให้วางแผนทริประหว่างเดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายน


4. เอกวาดอร์ – หมู่เกาะกาลาปากอส

เดินทางสู่เอกวาดอร์ หมู่เกาะกาลาปากอสมอบประสบการณ์การดำน้ำที่ไม่มีใครเทียบได้ ที่มีสิ่งมีชีวิต

ใต้ท้องทะเลที่หลากหลายและสภาพการมองเห็นที่ยอดเยี่ยม สถานที่ดำน้ำกระจายอยู่ทั่วเกาะ โดยมีจุด

ที่น่าสนใจบนเกาะดาร์วิน (Darwin Island) เกาะอิซาเบลา (Isabela Island) เกาะซานตาครูซ (Santa

Cruz Island) และโรกา เรดอนดา (Roca Redonda) เกาะดาร์วินมีชื่อเสียงในด้านสิ่งมีชีวิตที่มีเอกลักษณ์

และการก่อตัวทางธรณีวิทยา ในขณะที่เกาะอิซาเบลาจะให้คุณได้ว่ายน้ำร่วมกับสิงโตทะเลและนกเพนกวิน

ขี้เล่น ภูเขาไฟใต้น้ำที่โรกา เรดอนดาเป็นสวรรค์ของฉลามและทะเลสาบฟลามิงโกและป่าชายเลนบนเกาะ

ซานตาครูซก็ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับที่นี่ ที่ไม่ควรพลาดคือ  Gordon Rocks ที่เป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุด

ในเกาะส่วนกลาง

Hammerhead shark
ฉลามหัวค้อนที่ Gordon Rocks ในหมู่เกาะกาลาปากอส ประเทศเอกวาดอร์

“Gordon Rocks เป็นทางเลือกสำหรับการเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับที่ราคาถูกกว่า แทนการไปด้วยเรือ

Liveaboard ในหมู่เกาะกาลาปากอส” ทอม ปารีส กล่าว (Tom Paris) “ฉันดำน้ำสองสามครั้งตอนที่ฉัน

อยู่ที่นั่น กองหินสองกองโผล่ขึ้นมาจากน้ำ แต่ระหว่างและใต้กองหินเหล่านั้นมีอยู่ในน้ำอีกสามกอง ตรง

กลางเป็นเวิ้งอ่าวใต้น้ำที่เรียบและมีแนวกำบัง แต่วิธีที่ดีที่สุดคือดำลงไปที่ความลึกประมาณ 15 เมตร (50

ฟุต) แล้วเกาะไว้บนก้อนหินเนื่องจากมีกระแสน้ำเชี่ยวที่รุนแรง หากคุณโชคดี คุณจะเห็นฝูงฉลามหัวค้อน

สแกลลอปจำนวน 50-60 ตัวว่ายไปมาผ่านกองหินใต้น้ำ มันเป็นเหมือนเวทมนตร์!”

Hammerhead sharks swimming in the blue
 ฝูงฉลามหัวค้อนที่ Gordon Rocks ในหมู่เกาะกาลาปากอส ประเทศเอกวาดอร์

โดยใช้เวลาเดินทาง 30 นาทีจากช่องแคบ Itabaca เพื่อไปยัง Gordon Rocks และที่นั้นเหมาะสำหรับ

นักดำน้ำระดับกลางหรือระดับสูงเนื่องจากกระแสน้ำแรง นักดำน้ำสามารถคาดหวังที่จะพบเจออย่างใกล้

ชิดกับฝูงฉลามหัวค้อน ฉลามครีบดำ ฉลามแนวปะการังครีบขาว เต่าตนุ ปลาบาราคูดา กระเบนลายจุด

และกระเบนโมบูลา ท่ามกลางฝูงปลาตามแนวปะการัง


5. อียิปต์ – ทะเลแดง

แนวปะการังในทะเลแดงของอียิปต์เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิต นำเสนอภาพปะการังและฝูงปลาที่รวมตัวกันโดย

เป็นเหมือนการแสดงที่มีชีวิตชีวา แนวปะการังเหล่านี้เป็นสวรรค์สำหรับนักดำน้ำทุกระดับ มีความสงบ

สภาพการมองเห็นที่ชัดเจนและประสบการณ์ใต้น้ำที่หลากหลาย รวมถึงการดำน้ำดูซากเรือที่จมลงใต้น้ำ

กำแพงหินใต้น้ำ และการดำน้ำในกระแสน้ำ ตลอดจนการดำน้ำจากฝั่งและการล่องเรือไปเช้าเย็นกลับ

นักดำน้ำ Technical Diver และครูผู้สอนต่างชื่นชอบทะเลแดงของอียิปต์เนื่องจากมีสภาพการมองเห็น

ที่ยอดเยี่ยมและเข้าถึงการสำรวจใต้ทะเลลึกได้ง่าย ความยืดหยุ่นในการแบ่งวันหยุดของคุณตามสถานที่

ต่าง ๆ ช่วยให้คุณได้ลิ้มรสสถานที่ดำน้ำและประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย

“Jackson Reef  ใน Straits of Tiran เป็นสถานที่ดำน้ำที่โดดเด่นในทะเลแดง มอบประสบการณ์

ใต้น้ำอันน่าตื่นเต้น ภูมิทัศน์ใต้น้ำผสมผสานกำแพงหินและสวนปะการังอันน่าทึ่งเข้ากับปะการังที่

แข็งแรงหลายชนิดและจำนวนปลาที่อุดมสมบูรณ์ เต่ากระได้เลือกสวรรค์ใต้น้ำที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้เป็น

สถานที่รับประทานอาหารที่พวกมันชื่นชอบโดยพวกมันจะลิ้มลองปะการังอ่อนอันอย่างละเอียดอ่อน

ซึ่งมีส่วนช่วยในระบบนิเวศที่มีเอกลักษณ์และสมบูรณ์ของแนวปะการัง ความอุดมสมบูรณ์ของปลา

ที่นี่ช่างน่าหลงใหลจนบางครั้งแนวปะการังอาจดูเหมือนแทบจะซ่อนอยู่ใต้ทะเลแห่งชีวิตใต้ทะเลที่

ส่องประกายระยิบระยับ เป็นปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งที่ทำให้นักดำน้ำตกตะลึงกับความมหัศจรรย์ใต้น้ำ

ของทะเลแดง” ยูลิยา ฮอนชาร์สกา (Yuliya Honcharska) PADI Travel Expert กล่าว

Beautiful reef
ภาพโดยยูลิยา ฮอนชาร์สกา (Yuliya Honcharska)

การดำน้ำในอียิปต์นั้นสามารถทำได้ตลอดทั้งปี โดยมีอุณหภูมิน้ำอยู่ระหว่าง 21 ถึง 28°C (70 – 82°F)

และสภาพการมองเห็นที่ไกลตั้งแต่ 20 ถึง 50 เมตร (66 ถึง 164 ฟุต) สำหรับนักดำน้ำที่สนใจฉลามหัว

ค้อน เวลาที่ดีที่สุดในการไปเยี่ยมชมคือระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำอุ่นที่สุด แม้

จะคาดเดาได้น้อยกว่า แต่ฉลามวาฬก็มีแนวโน้มที่จะพบเห็นได้ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม


6. ฮาวาย – โคนา (Kona)

ฮาวาย สวรรค์ของนักดำน้ำสคูบา มีชื่อเสียงในด้านต้นกำเนิดภูเขาไฟและการแยกตัวทางภูมิศาสตร์ที่

เป็นเอกลักษณ์ ส่งผลให้เกิดประสบการณ์การดำน้ำมากมายที่ไม่เป็นรองใคร จักรวาลใต้น้ำของเกาะ

เต็มไปด้วยฉลามกาลาปากอส เต่าทะเลที่ทำรัง ฉลามเสือ และกระเบนราหูอันงดงาม ทั้งหมดนี้ตั้งอยู่

ท่ามกลางภูมิทัศน์อันน่าทึ่งของท่อลาวาธรรมชาติและแนวหิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล

ในฮาวายได้รับการคุ้มครองอย่างดี ทำให้มั่นใจได้ว่าสิ่งมีชีวิตใต้น้ำจะอุดมสมบูรณ์อย่างต่อเนื่อง สัตว์

ประจำถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งหาไม่ได้จากที่อื่นในโลก ที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับการผจญภัย

ใต้น้ำของฮาวายปอีกขั้นหนึ่ง

PADI Travel’s Operation Manager เคลลี่ ฮิกส์ (Kelly Hicks) แบ่งปันความรักที่เธอมีต่อฮาวาย ซึ่ง

เป็นฐานบ้านของเธอและเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางเพื่อการดำน้ำที่เธอชื่นชอบ “ฮาวายอยู่ในใจของ

ฉัน” เธอกล่าว “ด้วยประสบการณ์การดำน้ำที่เป็นเอกลักษณ์และสายพันธุ์ที่หลากหลายที่พบได้เฉพาะ

ในเกาะเท่านั้น แต่ยังมีอะไรให้เพลิดเพลินนอกเหนือจากการดำน้ำอีก ตั้งแต่การสำรวจภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ

ไปจนถึงการเดินป่าในหุบเขาอันเขียวชอุ่ม”

Woman on a boat with a view of erupted volcano on the background
ภาพโดยเคลลี่ ฮิกส์ (Kelly Hicks)

“หนึ่งในการดำน้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดในฮาวายคือ Manta Ray Night Dive ในโคนา ประสบการณ์ครั้งแรก

ของฉันในการดำน้ำตอนคืนได๊พ์นี้เป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนจริง ๆ ขณะที่เราดำลงน้ำ เราได้พบ

กับภาพอันน่าทึ่ง ซึ่งมีกระเบนราหูจำนวนมากว่ายอยู่เหนือศีรษะอย่างสง่างาม ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่า

เรากำลังเห็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่ง แต่สิ่งนี้เกิดขึ้นเป็นประจำเมื่อกระเบนราหูกินแพลงก์ตอน

ที่สะสมอยู่ในบริเวณนั้น กระเบนราหูที่ถูกส่องสว่างด้วยไฟฉายใต้น้ำของเรา ลอยไปในน้ำอย่างง่ายดาย

เผยให้เห็นเครื่องหมายที่โดดเด่นและท่าทางที่อ่อนโยน มันเป็นช่วงเวลาแห่งความมหัศจรรย์อย่างแท้จริง

และเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงพลังถึงความสำคัญของการปกป้องมหาสมุทรของเรา การดำน้ำในโคนาใน

คืนนั้นจะอยู่กับฉันเพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความงามและความลึกลับของโลกใต้ทะเล” เคลลี่กล่าวเสริม

นักดำน้ำสามารถเพลิดเพลินกับผืนน้ำอันเงียบสงบของฮาวายได้ตลอดทั้งปี โดยอุณหภูมิเฉลี่ยจะเปลี่ยน

แปลงระหว่าง 24-27°C (24-27°C) โดยจะถึงจุดสูงสุดในเดือนกันยายน ระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือน

มีนาคม น้ำจะกลายเป็นเวทีสำหรับวาฬหลังค่อมอันงดงาม ทำให้นักดูวาฬได้ชมปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ ในขณะที่พวกมันมาผสมพันธุ์และคลอดลูก


7. อินโดนีเซีย – ราชาอัมพัต

เมื่อเปลี่ยนความสนใจของเราไปยังภูมิภาคตะวันออกของอินโดนีเซีย เราพบว่าราชาอัมพัตหรือ “สี่กษัตริย์”

หมู่เกาะอันน่าทึ่งที่ประกอบด้วยเกาะหลายร้อยเกาะ โดย 4 เกาะที่มีความสำคัญ ได้แก่ Misool, Batanta,

Waigeo และ Salawati ที่ตั้งอันห่างไกลช่วยส่งเสริมแนวปะการังที่ยังคงสภาพสมบูรณ์และทิวทัศน์อันน่าทึ่ง

ที่สุดของอินโดนีเซีย นักดำน้ำจะได้ชมสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลสุดพิเศษ ตั้งแต่ฝูงปลาขนาดใหญ่ กระเบนราหู

และฉลามแนวปะการัง ไปจนถึงสัตว์ที่มีขนาดเล็กกว่า เช่น ม้าน้ำปิ๊กมี่ และทากเปลือยหรือมากทะเล ราชา

อัมพัตเปล่งประกายในความหลากหลายและความอุดมสมบูรณ์ ภูมิภาคนี้ยังมีสัตว์สายพันธุ์ที่เป็นเอกลักษณ์

เช่น ฉลามวอบบีกองและฉลามเดิน (Walking Shark) เนื่องจากที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่มีความหลาก

หลายมากที่สุดในโลก คุณจึงสามารถวางใจในการชมสัตว์ทะเลชนิดอื่น ๆ ได้อีกหลายชนิด รวมถึงปลาแมค

เคอเรลสเปน ปลาทูน่า ปลาสาก ปลาจิ้มฟันจระเข้ปีศาจ ปลาหมึก และสัตว์จำพวกกุ้งชนิดต่าง ๆ มากมาย

เพื่อสภาพการดำน้ำที่เหมาะสมที่สุด ให้วางแผนการเยี่ยมชมของคุณระหว่างเดือนตุลาคมถึงเมษายน

School of fish
ภาพโดยเม็ก ไวท์เฮด (Meg Whitehead)

“การดำน้ำในราชาอัมพัต ประเทศอินโดนีเซีย นั้นมอบดินแดนมหัศจรรย์แห่งความหลากหลายทางชีวภาพ ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางจากทั่วโลกที่ฉันชื่นชอบ!” PADI Travel Sales Team Shift Lead

เม็ก ไวท์เฮด (Meg Whitehead) กล่าว “บริเวณนี้เตือนเราว่าการดำน้ำตามแนวปะการังควรมีลักษณะ

อย่างไรและเหตุใดเราจึงควรพยายามปกป้องมัน ราชาอัมพัตทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจอันน่าเจ็บปวดถึง

สิ่งที่มหาสมุทรของเราสามารถเป็นได้ มันเต็มไปด้วยชีวิตในทุกระดับความลึกด้วยสัตว์นานาชนิดจนทำให้

คุณหัวหมุน ตั้งแต่การดำน้ำไปรอบ ๆ กระเบนราหูและฉลาม Wobbegong ไปจนถึงการนับจำนวนทาก

เปลือยหรือทากทะเลในสวนปะการัง ชีวิตใต้น้ำไม่เคยหยุดที่จะทำให้รู้สึกประหลาดใจ!” เม็กกล่าวเสริม

Diver taking pictures of a coral underwater
ภาพจาก เม็ก ไวท์เฮด (Meg Whitehead)

8. มัลดีฟส์

มัลดีฟส์ ประเทศสวรรค์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องหาดทรายขาวที่สวยงามและแนวปะการังที่ไม่ธรรมดา มอบ

ประสบการณ์การดำน้ำที่ไม่มีใครเทียบได้ กระแสลมมรสุมของอินเดียพัดพานักดำน้ำล่องลอยไปอย่าง

สบาย ๆ เพื่อชมสัตว์ทะเลที่อุดมสมบูรณ์ด้วยกระแสน้ำที่มีที่มีอาหารมากมายให้แก่สัตว์ทะเล ลากูน

ของเกาะปะการังที่มียอดหินใต้น้ำหรือ ‘Thila’ ที่ขูดผิวน้ำจากส่วนลึก นักดำน้ำสามารถสำรวจช่องแคบ

ที่สามารถว่ายผ่านได้ ถ้ำ และส่วนที่ยื่นออกมาซึ่งประดับประดาด้วยฟองน้ำสีสันสดใส สัตว์ไม่มีกระดูก

สันหลังและกอร์โกเนียน ชมความตื่นตาตื่นใจของกระเบนราหูที่ถูกทำความสะอาดโดยปลาและกุ้งที่

จุดทำความสะอาด ร่วมกับการชมเต่าทะเลและฉลามวาฬบ่อยครั้ง การดำน้ำในมัลดีฟส์ทำได้ตลอด

ทั้งปี เนื่องจากมีสภาพอากาศแบบเขตร้อนและอุณหภูมิน้ำอุ่นในช่วง 26-30°C (80-86°F)

Boat on a turqouise water
ภาพโดยจาโคโม กานดา (Giacomo Ganda)

“ฉันเรียกมัลดีฟส์ว่าบ้านมาสิบห้าปีแล้ว และที่นี่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจอยู่เสมอ คุณจะได้รับประสบการณ์

ที่น่าตื่นตาตื่นใจบนเกาะที่สวยงามเหล่านี้ไม่ว่าจะเดือนใดก็ตาม สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่นี่มีชีวิตชีวาตลอดทั้งปี

เนื่องจากกระแสน้ำโดยรอบ เยี่ยมชม Manta Points และว่ายน้ำกับฉลามวาฬใน Ari Atoll ได้ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม อ่าว Hanifaru เป็นสถานที่สำหรับการรวมตัวของกระเบนราหูที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่เดือน

สิงหาคมถึงตุลาคม ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน มัลดีฟส์ทางตอนใต้จะเป็นสถานที่ยอดนิยม น้ำใสเผยให้

เห็นฉลามแนวปะการังสีเทาหลายร้อยตัวในการดำน้ำตามช่องแคบ รอบ Fuvahmulah Atoll คุณอาจพบเห็น

กระเบนราหูมหาสมุทร ฉลามหัวค้อนและฉลามเสือด้วย มัลดีฟส์เป็นสวรรค์ของนักดำน้ำที่นำเสนอการดำน้ำ

ที่ยอดเยี่ยมและบริการที่เป็นเลิศตลอดทั้งปี ไม่ว่าคุณจะสำรวจทางเหนือหรือทางใต้ เตรียมตัวสำหรับประสบ

การณ์ใต้น้ำอันน่าทึ่ง” PADI Travel Expert จาโคโม กานดา (Giacomo Ganda) กล่าว

Octopus on a reef
ภาพโดยจาโคโม กานดา (Giacomo Ganda)

9. เม็กซิโก – พลายา เดล คาร์เมน (Playa del Carmen)

สถานที่ดำน้ำในปลายาเดลคาร์เมน ประเทศเม็กซิโก มีถ้ำที่สวยงามและระบบแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ตาม

แนวชายฝั่งที่เป็นทราย เป็นเขตอนุรักษ์สำหรับสิ่งมีชีวิตทางทะเลที่หลากหลายย รวมถึงฉลามขนาดใหญ่และ

สัตว์มาโครขนาดเล็ก สำหรับช่วงที่มีสัตว์ที่โดดเด่นที่สุดคือในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคมที่มีฉลาม

หัวบาตรตัวเมียปรากฏตัวอยู่ มีกระเบนนก เต่าล็อกเกอร์เฮด (Loggerhead) และเต่าตนุก็พบเห็นอยู่ทั่วไปใน

บริเวณนี้เช่นกัน ในบางโอกาส คุณจะพบเห็นปลากระโทงร่มและฉลามวาฬได้ที่บริเวณนอกชายฝั่ง มีสายพันธุ์

สัตว์เขตร้อนอยู่มากมายในแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ของปลายาเดลคาร์เมน

“หนึ่งในสถานที่ดำน้ำโปรดตลอดกาลของฉันอยู่ที่ Cueva del Pargo นอกชายฝั่ง Playa del Carmen

มันเหมือนกับการก้าวเข้าสู่ดินแดนมหัศจรรย์ทางน้ำ” PADI Travel Sales Team Shift Lead ไมก้า ลา

บูโร (Mica Laboureau) กล่าว “ที่นี่ ขณะที่คุณสำรวจน้ำทะเลใสดุจคริสตัล คุณจะว่ายน้ำเคียงข้างเต่า

ทะเลตามฤดูกาลและชมม้าน้ำ ปลาสินสมุทร และแม้แต่ปลาสาก ไม่ใช่แค่สถานที่ดำน้ำเท่านั้น เป็นการ

เดินทางที่น่าหลงใหลสู่ใจกลางของระบบนิเวศใต้น้ำที่อุดมสมบูรณ์ รูปนี้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023 แต่

ฉันจะกลับไปครั้งแล้วครั้งเล่า!”

ภาพโดยไมก้า ลาบูโร (Mica Laboureau)
Colorful reef
ฝูงปลาหลบในแนวปะการังนอกชายฝั่งพลายา เดล คาร์เมน ประเทศเม็กซิโก

การดำน้ำที่นี่ยอดเยี่ยมตลอดทั้งปี โดยมีอุณหภูมิของน้ำคงที่และเย็นลงเพียงเล็กน้อยในช่วงฤดูหนาว โดย

เฉลี่ยแล้ว อุณหภูมิของน้ำอยู่ระหว่าง 25-28°C (77-83°F) ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม โดย

ทั่วไปจะพบฉลามหัวบาตรตามชายฝั่ง และมีสัตว์ทะเลชนิดอื่น ๆ จำนวนมากเข้ามาในบริเวณนี้เนื่องจาก

อุณหภูมิจะเย็นลงเล็กน้อยในฤดูหนาว การพบเห็นฉลามวาฬใกล้กับเกาะอิสลามูเฮเรส (Isla Mujeres)

จะดีที่สุดในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน หากคุณต้องการเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับจากปลายาเดล

คาร์เมน และตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกันยายน เต่าทะเลและเต่าตนุจะขึ้นฝั่งเพื่อวางไข่ตามแนวริเวียร่า

มายา (Riviera Maya)


10. ฟิลิปปินส์

ฟิลิปปินส์มีสถานที่ดำน้ำที่น่าหลงใหลนับพันแห่ง นำเสนอประสบการณ์อันหลากหลายที่เหมาะกับ

นักดำน้ำทุกระดับ สำหรับผู้เริ่มต้น ภูมิภาคลูซอน (Luzon) ใกล้กรุงมะนิลาเป็นจุดเริ่มต้นในอุดมคติ โดดเด่นด้วยการลงดำน้ำผ่านชายหาดที่เข้าถึงได้ง่ายและสิ่งมีชีวิตประเภทมาโครที่ดึงดูดนักดำน้ำ

หลายพันคนทุก ๆ ปีเพื่อมารับประกาศนียบัตรการดำน้ำระดับเบื้องต้น ผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์มัก

มาที่อ่าวซูบิก (Subic Bay) เพราะโอกาสในการดำน้ำชมซากเรือที่ไม่เหมือนใคร ที่เรือรบสมัยสงคราม

โลกครั้งที่สองที่จมอยู่ในปัจจุบันมีปะการังอ่อน เต่า ปลานานาพันธุ์ และงูทะเล ซึ่งมอบประสบการณ์

การผจญภัยใต้น้ำที่ไม่อาจลืมเลือน สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลในฟิลิปปินส์นั้นน่าประทับใจ มีทั้งฉลามหาง

ยาว (Thresher Shark) ฉลามวาฬ ฝูงปลากระมง ปลาซาร์ดีน และกระเบน ไม่ว่าจะฝึกฝนทักษะ

การดำน้ำหรือเพียงแค่เพลิดเพลินกับสิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่หลากหลาย ฟิลิปปินส์คือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง

การสำรวจใต้น้ำและวันหยุดพักผ่อนแบบสบาย ๆ

Diver surrounded with stingrays
ภาพโดยฮิลดา อาร์มาคานกี (Hilda Armacanqui)

“ฉันรู้สึกทึ่งกับจำนวนของสิ่งมีชีวิตที่ทับบาตาฮา (Tubbataha) ในฟิลิปปินส์ มันเหมือนกับการเห็นเรือน

เพาะชำของสามเหลี่ยมปะการังเต็มแบบเต็ม ๆ! มีลูกปลามากมาย (ฉลาม ปลาวัว ปลาแม่แรง ปลาขี้ตังเบ็ด

และปลาตามแนวปะการังขนาดเล็กอีกมากมาย) และฝูงปลาที่ผสมพันธุ์กันทุกหนทุกแห่ง! และอย่าลืมว่า

พวกมันทุกตัวทำพิธีเกี้ยวพาราสีและสร้างรัง ฉันรู้สึกประหลาดใจที่ปลาสามารถเป็นพ่อแม่ (และคู่รัก!) ได้ดี

ขนาดไหน ฉันจะไม่มีวันลืมประสบการณ์นี้เลย และฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้อยู่ใน Philippine Siren

ของฟิลิปปินส์แม้จะเป็นถึงฤดูกาลที่สั้น ประสบการณ์ที่ต้องจดจำและทะนุถนอม ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม

มันถึงเป็นที่ต้องการขนาดนี้!” กล่าวโดย PADI Travel Expert ฮิลดา อาร์มาคานกี (Hilda Armacanqui)


โบนัส: โปรตุเกส – อะซอเรส (Azores)

อะซอเรส (Azores) ในโปรตุเกสนำเสนอโลกใต้น้ำที่มีเอกลักษณ์และอุดมสมบูรณ์ด้วยภูมิประเทศของพื้น

ทะเลที่หลากหลาย ตั้งแต่สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังตัวเล็ก ๆ ไปจนถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลขนาดใหญ่ ที่นี่คือสวรรค์ของนักดำน้ำที่เหมาะสำหรับทุกระดับประสบการณ์ นักดำน้ำสามารถสำรวจเกาะเล็ก ๆ ที่ชื่อ

ว่า Vila Franca และสถานที่ดำน้ำที่หลากหลายได้ ในขณะที่ชายฝั่งทางใต้มีซุ้มภูเขาไฟ หุบเขา และแนว

ปะการังต่าง ๆ

“การดำน้ำในอะซอเรสมอบประสบการณ์สุดพิเศษ” เม็ก ไวท์เฮดกล่าว “ด้วยน้ำใสดุจคริสตัลและการมอง

เห็นได้ไกลกว่า 30 เมตร (100 ฟุต) ฉันจึงได้ชมการแสดงสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่น่าทึ่งท่ามกลางการก่อตั

ทางธรณีวิทยาที่มีเอกลักษณ์ การมีช่องระบายความร้อนรอบ ๆ เกาะภูเขาไฟเหล่านี้สร้างโอกาสที่หาได้

ยากในการสำรวจระบบนิเวศที่ปรับให้เข้ากับสภาวะที่รุนแรง สถานที่อันเป็นเอกลักษณ์ในมหาสมุทร

แอตแลนติกยังนำมาซึ่งสิ่งมหัศจรรย์ เช่น กระเบนราหู ฉลามหลากหลายสายพันธุ์ (รวมถึงฉลามสีน้ำเงิน

ที่หายาก) และวาฬมากกว่า 12 สายพันธุ์! ยิ่งไปกว่านั้น ความมุ่งมั่นของหมู่เกาะอะซอเรสในการอนุรักษ์

ทางทะเลจึงทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้พบกับระบบนิเวศที่มีชีวิตชีวาและอุดมสมบูรณ์ทำให้การดำน้ำทุกได๊พ์

เป็นข้อพิสูจน์ถึงความทุ่มเทของชุมชนในการรักษาสมบัติทางธรรมชาติ” เม็กกล่าวเสริม

อะซอเรส (Azores) ภาพจาก PADI Travel Dive Guides

การดำน้ำในอะซอเรสนั้นเกิดขึ้นตามฤดูกาล ในฤดูหนาวอุณหภูมิจะลดลงถึง 58°F (14°C) ในขณะที่ฤดู

ใบไม้ผลิมอบประสบการณ์การดำน้ำยามค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมด้วยการชมฉลามวาฬ ปลาหมึก กระเบน

Thornback Ray และตัวคริลล์ ฤดูท่องเที่ยวสอดคล้องกับฤดูราหูบนเกาะ Pico, Faial และ Santa Maria

ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม สภาพการมองเห็นแตกต่างกันไปตั้งแต่ 15 ฟุตถึง 120 ฟุต (5 ม. ถึง 40 ม.)

เนื่องจากปรากฏการณ์น้ำผุด (Upwelling) และเทอร์โมไคลน์ แต่การดำน้ำนอกชายฝั่งจะทำให้ได้เพลิดเพลิน

กับการมองเห็นที่คงที่มากกว่าที่ 105 ฟุต (35 ม.) เนื่องจากน้ำลึก


ไม่ว่าคุณจะเป็นนักดำน้ำที่มีประสบการณ์หรือเพิ่งเริ่มต้น จุดหมายปลายทางเพื่อการดำน้ำชั้นนำเหล่านี้

มอบประสบการณ์ที่เหนือชั้นที่ไม่ควรพลาด ตั้งแต่สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่มีชีวิตชีวาไปจนถึงช่วงเวลาที่น่า

จดจำ สถานที่แต่ละแห่งมอบโอกาสพิเศษในการสำรวจความมหัศจรรย์ของโลกใต้น้ำ การเลือกสถานที่

ดำน้ำที่สมบูรณ์แบบอาจเป็นเรื่องที่น่ากังวล อย่างไรก็ตาม เราหวังว่าคำแนะนำและข้อมูลเชิงลึกจากทีม

งาน PADI Travel ที่มีประสบการณ์การดำน้ำในกว่า 60 ประเทศ จะช่วยคุณในการตัดสินใจการผจญภัย

ดำน้ำครั้งต่อไปของคุณ ดังนั้นคว้าอุปกรณ์ของคุณ ดำดิ่งลงสู่ทะเล และเพลิดเพลินไปกับความงามอัน

น่าทึ่งที่รออยู่! และขอมีความสุขกับการดำน้ำ!

Share This