สถานที่เรียนดำน้ำแบบสคูบาที่อยู่ใน 11 อันดับแรกในปี 2024
คุณพร้อมที่จะดำดิ่งลงไปสำรวจโลกใต้ท้องทะเลแล้วหรือยัง การเรียนดำน้ำแบบสคูบาเป็นประสบการณ์ที่
น่าตื่นเต้นและเติมเต็มที่จะเปิดโลกแห่งการผจญภัยใบใหม่ แต่ด้วยจุดหมายปลายทางมากมายที่มีให้เลือก การตัดสินใจว่าจะเริ่มที่ไหนดีจึงอาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก นั่นเป็นเหตุผลที่เราได้รวบรวมรายชื่อสถานที่เรียน
ดำน้ำที่ดีที่สุดทั้ง 11 แห่ง
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักดำน้ำมือใหม่หรือเป็นนักดำน้ำที่ช่ำชอง จุดหมายปลายทางเหล่านี้ก็เหมาะสำหรับ
ทุกคน ดังนั้นให้คว้าตีนกบของคุณมาและเตรียมพร้อมที่จะค้นพบความงามของโลกใต้น้ำในสถานที่ที่
น่าทึ่งเหล่านี้
มาเป็นนักดำน้ำที่ได้รับการรับรองในเวลาเพียงไม่กี่วัน
นี่คือภาพรวมคร่าวๆของสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเรียนดำน้ำแบบสคูบา เมื่อคุณลงทะเบียนเรียนหลักสูตร
- สื่อสำหรับการเรียน: คุณจะได้รับหนังสือคู่มือ PADI Open Water Diver หรือหลักสูตร eLearning ซึ่งครอบคลุมเกี่ยวกับทฤษฎี อุปกรณ์ และเทคนิคการดำน้ำต่าง ๆ
- ภาคการเรียนในห้องเรียน: คุณจะได้เข้าร่วมการเรียนในห้องเรียนหรือการเรียนออนไลน์ซึ่งคุณจะ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟิสิกส์และสรีรวิทยาของการดำน้ำ การวางแผนการดำน้ำ การเลือกและการบำรุง รักษาอุปกรณ์ และมาตรการด้านความปลอดภัย
- การดำน้ำในสระน้ำหรือในแหล่งน้ำจำลอง: คุณจะได้ฝึกฝนทักษะและเทคนิคพื้นฐานในการดำน้ำ ต่าง ๆ เช่น การหายใจใต้น้ำ การไล่น้ำออกจากหน้ากาก และการปฏิบัติขั้นตอนฉุกเฉินในสระน้ำ หรือในแหล่งน้ำจำลอง
- การดำน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ: หลังจากที่ทำทักษะที่จำเป็นได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว คุณจะได้ดำน้ำ ในแหล่งน้ำธรรมชาติ 4 ได๊พ์กับครูผู้สอน ซึ่งโดยปกติแล้วจะอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น ทะเลสาบ หรือมหาสมุทร การดำน้ำเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้ใช้ความรู้และทักษะที่คุณได้เรียนรู้ไปแล้วในสภาพ แวดล้อมจริง
- ประกาศนียบัตร: เมื่อคุณสำเร็จหลักสูตร คุณจะได้รับประกาศนียบัตร PADI Open Water Diver ประกาศนียบัตรนี้จะอนุญาตให้คุณดำน้ำกับบัดดี้ได้ที่ระดับความลึกสูงสุดถึง 60 ฟุต (18 เมตร)
โดยรวมแล้ว คุณสามารถคาดหวังว่าจะได้มีความเข้าใจอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับทฤษฎี อุปกรณ์ และเทคนิค
การดำน้ำ รวมถึงทักษะปฏิบัติที่จำเป็นสำหรับการดำน้ำอย่างปลอดภัยและมั่นใจ
ระยะเวลาทั้งหมดที่ต้องใช้: 4-7 วัน (ขึ้นอยู่กับตารางเวลาของแต่ละบุคคล)
1. โบแนร์
โบแนร์ตั้งอยู่ทางเหนือของเวเนซุเอลาในตอนใต้ของทะเลแคริบเบียน เกาะแคริบเบียนของเนเธอร์แลนด์แห่งนี้
ได้ปกป้องทรัพยากรทางทะเลมามากว่า 35 ปี ด้วยเหตุนี้ สิ่งมีชีวิตในทะเลจึงมีมากกว่า 470 สายพันธุ์ที่พบได้
ในน่านน้ำของโบแนร์ ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการเรียนดำน้ำแบบสคูบาในทะเลแคริบเบียน โบแนร์มีแนวปะการังที่น่าทึ่งและซากเรืออับปางที่ถูกลืมมาอย่างนาน เนื่องจากจุดดำน้ำของเกาะนี้มีการกำบัง
จากกระแสน้ำ ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางชั้นนำเพื่อการเรียนสำหรับประกาศนียบัตรใหม่ ผู้มาเยือน
โบแนร์สามารถเลือกได้ระหว่างการดำน้ำจากเรือหรือการดำน้ำจากชายฝั่ง รีสอร์ทส่วนใหญ่มีแนวปะการังที่สวย
งามอยู่นอกชายฝั่งใกล้ ๆ แต่ผู้ที่ต้องการไปเยือนอุทยานแห่งชาติทางทะเลของโบแนร์ ที่อยู่ไกลออกไปจะต้องจอง
การดำน้ำจากเรือดำน้ำของภูมิภาคนี้
2. มัลดีฟส์
เมื่อออกจากสนามบินหลักของมัลดีฟส์ คุณจะเห็นเรือมากกว่าแท็กซี่ นั่นเป็นเพราะประเทศนี้ประกอบไปด้วย
เกาะปะการังขนาดเล็กมากกว่า 1,100 เกาะ หลังจากที่เครื่องบินลงจอดในมาเล่ (Malé) ที่เป็นเมืองหลวงแล้ว
นักท่องเที่ยวมักจะลงเรือทันทีเพื่อไปยังเกาะเล็ก ๆ หรืออะทอลล์ มัลดีฟส์เป็นประเทศที่มีพื้นที่ราบลุ่มซึ่งมีหาด
ทรายขาวละเอียดชวนฝันและแนวปะการังที่สวยงามและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่อุดมสมบูรณ์ หากคุณกำลังต้องการ
หลีกหนีจากโลกที่เคร่งเครียดและดำดิ่งลงไปในผืนน้ำเขตร้อนที่สงบและใสสะอาด มัลดีฟส์คือสถานที่ที่สวยงาม และผ่อนคลายแห่งหนึ่งสำหรับการเรียนดำน้ำ ข้อเสียนั้นมีเพียงข้อเดียวซึ่งก็คือมัลดีฟส์อาจทำให้คุณรู้สึกเฉย ๆ
กับสถานที่อื่นไปตลอดกาลเนื่องจากเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกในการเรียนดำน้ำแบบสคูบา
3. ประเทศเบลีซ
เบลีซนั้นมีการผจญภัยที่ของทั้งซีกโลกไว้ภายในพรมแดนของประเทศตัวเอง เบลีซตั้งอยู่ระหว่างเม็กซิโก
และกัวเตมาลา เป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสำรวจพักผ่อนและความโรแมนติก
อย่างปฏิเสธไม่ได้ ด้วยเกาะมากกว่า 400 เกาะ หาดทรายขาว แนวปะการังที่ยาวที่สุดในซีกโลกตะวันตก
และชายฝั่งทะเลยาว 386 กิโลเมตร/240 ไมล์ ทำให้เบลีซเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการรับประกาศนีย
บัตรการดำน้ำ ในขณะที่หลุมสีน้ำเงิน (Blue Hole) เป็นจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดของเบลีซ แต่ก็ยังมีอะไร
อีกมากมายให้คุณได้ค้นพบ น้ำทะเลมีความอุดมสมบูรณ์ ใสและอุ่น จึงเป็นสิ่งแวดล้อมที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้เริ่มต้น และยังมีการดำน้ำที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักดำน้ำขั้นสูงเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ สถานที่ดำน้ำส่วนใหญ่ยังแออัด
น้อยกว่าสถานที่อื่น ๆ ที่มีมาตรฐานการดำน้ำที่ใกล้เคียงกัน
4. หมู่เกาะคะแนรี (Canary Islands)
สำหรับนักเดินทางที่อยู่ในยุโรป หมู่เกาะคะแนรีนั้นมอบวันที่มีแดดจ้าและน้ำทะเลใสและอุ่นที่อยู่ใกล้บ้าน
มากกว่า หากคุณอาศัยอยู่ที่อื่น หมู่เกาะคะแนรีคือคำตอบที่น่าสนใจสำหรับคำถามที่ว่า “คุณเรียนดำน้ำ
มาจากไหน” สภาพการมองเห็นที่ไกล 30 ม./100 ฟุต และอุณหภูมิน้ำที่เหมาะสม เพราะกระแสน้ำกัลฟ์สตรีม
รักษาอุณหภูมิของน้ำไว้ที่ประมาณ 17-18°C/63-64°F ตลอดทั้งปี หมู่เกาะคะแนรีเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุด
ในการเรียนดำน้ำแบบสคูบาในยุโรป และเป็นสถานที่ที่ดีในการชมสัตว์สายพันธุ์ที่ใหญ่กว่า เช่น ฉลามนางฟ้า
(Angel sharks) และกระเบน ปลากระเบนทั่วไปนั้นมีอยู่ห้าสายพันธุ์ (กระเบนทั่วไป กระเบนกลม กระเบนลาย
หินอ่อนไฟฟ้า กระเบนนก และกระเบนผีเสื้อ) และมีการพบเห็นกระเบนหลังดำ (Bull Ray) กระเบนราหูและ
กระเบนสเก็ตเป็นครั้งคราว
5. ประเทศเม็กซิโก
มีเหตุผลอย่างไม่ต้องสงสัยที่เม็กซิโกมักปรากฏอยู่ในรายชื่อสถานที่เรียนดำน้ำที่มีอันดับสูงสุด หากความฝันใน
การดำน้ำของคุณคือฝูงปลาหลากสีสันและปาร์ตี้บนชายหาด ก็ให้มุ่งหน้าไปยังฝั่งทะเลแคริบเบียนของเม็กซิโก
หากคุณกำลังมองหาดูสิ่งที่มีขนาดใหญ่กว่า เช่น กระเบนราหูหรือสิงโตทะเลที่เป็นมิตร ให้เลือกฝั่งแปซิฟิก
ตัดสินใจไม่ได้ใช่ไหม อย่างอย่างนั้นก็ไปทั้งสองฝั่ง! ประกาศนียบัตรของ PADI ของคุณคือหนังสือเดินทางสู่
การผจญภัยใต้น้ำที่ไม่มีวันสิ้นสุด ชายฝั่งทั้งสองของเม็กซิโกพร้อมสำหรับการสำรวจตั้งแต่ป่าสาหร่ายเคลป์
ขนาดใหญ่ในมหาสมุทรแปซิฟิกไปจนถึงแนวปะการังและซากเรือในทะเลแคริบเบียน ในขณะเดียวกัน
ซีโนเต (Cenotes)ก็กำลังรอคอยอยู่ที่บริเวณภายในประเทศ สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลของเม็กซิโกนั้นมีครบทุกอย่าง
ตั้งแต่ปลาในแนวปะการังที่งดงามไปจนถึงฉลามขาว ที่นี่มีอะไรให้ดูและสำรวจมากมาย คุณจะไม่เบื่อเลย
6. ประเทศกรีซ
ด้วยเกาะที่มีผู้อยู่อาศัยเกือบ 230 เกาะและแนวชายฝั่งที่สำคัญ คุณจะพบกับการดำน้ำที่หลากหลายใน
ประเทศกรีซ ซึ่งรวมถึงแนวกำแพงใต้น้ำ ซากเรือหรือซากวัตถุที่จมอยู่ใต้น้ำ ถ้ำโพรงใต้น้ำและแนวปะการัง
นอกจากนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตมากมายในท้องทะเลโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้ดำน้ำให้ช้าลงและไม่คาดหวัง
เยอะPeloponnese Wreck ที่นอกเกาะมิโคนอส (Mykonos) เป็นหนึ่งในจุดดำน้ำที่โดดเด่นที่สุดของเกาะ
ดังนั้นอย่าลืมไปดำน้ำดูซากเรือที่อับปางในช่วงปี 1930 นี้ บนเกาะนักซอส (Naxos) มีซากเครื่องบิน Arado 196
แนวปะการัง Koundouros Reef เต็มไปด้วยสัตว์ทะเล และสภาพการมองเห็นก็ดีเยี่ยม นอกจากนี้ สำหรับ
ผู้ที่ได้รับการฝึกฝนและมีประสบการณ์ที่จำเป็นแล้ว ให้ใช้เวลาในการดำน้ำในถ้ำในขณะที่อยู่บนเกาะครีต (Crete)
ถ้ำ El Greco Cave มีช่องขนาดใหญ่ให้ว่ายน้ำผ่าน รวมถึงมีช่องอากาศที่คุณสามารถขึ้นไปได้
7. ประเทศออสเตรเลีย
ด้วยความยาว 2,250 กม./1,400 ไมล์ เกรท แบร์ริเออร์ รีฟ (Great Barrier Reef) น่าจะเป็นจุดหมายปลายทาง
สำหรับการดำน้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ดังนั้นคงไม่มีที่ไหนที่จะดีไปกว่าที่นี่อีกในการเริ่มดำน้ำ ด้วยแนวปะการัง
ประมาณ 3,000 แห่งและเกาะกว่า 600 เกาะ จึงไม่ขาดแคลนสถานที่สำหรับเรียนรู้ทักษะใหม่ๆในขณะที่ถูกราย
ล้อมไปด้วยสิ่งมีชีวิตทั้งเล็กและใหญ่ ตั้งแต่เต่าและปลาวัว ไปจนถึงพะยูนและโลมา ในที่อื่น ๆ ยังมีแนวปะการัง
Ningaloo Reef (ในออสเตรเลียตะวันตก) ที่เป็นจุดยอดนิยมสำหรับฉลามวาฬ ในขณะที่ออสเตรเลียใต้เป็นสถานที่
สำหรับดูมังกรทะเลใบหญ้า (Leafy Seadragon) หากคุณชอบการพักผ่อนในเมือง การดำน้ำจากชายฝั่งในซิดนีย์
จะทำให้โลกใต้น้ำอยู่ไม่ไกลจากแหล่งอาหาร แหล่งชอปปิ้งและสถานบันเทิงยามค่ำคืน
8. ประเทศอินโดนีเซีย
ในใจกลางของสามเหลี่ยมปะการัง เกาะทั้ง 17,508 เกาะของอินโดนีเซียมีความหลากหลายทางชีวภาพ
ที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก บาหลีเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยการดำน้ำจากชายฝั่งที่ดีที่สุด
ในโลกและซากเรือ USAT Liberty ที่เริ่มต้นที่ความลึกเพียง 16 ฟุต/5 เมตร – แล้วมองหาปลาโมลาโมล่า
ด้วยเช่นกัน ช่องแคบเลมเบห์ (Lembeh Straits) เป็นการแนะนำที่สมบูรณ์แบบเกี่ยวกับความแปลก
ประหลาดและมหัศจรรย์ของมหาสมุทร: หมึกสายเลียนแบบ (Mimic Octopus) ม้าน้ำแคระ ปลากบ
กั้งตั๊กแตน (Mantis Shrimps) หนอนบ็อบบิท (Bobbit Worm) และปลาไหลริบบิ้น เป็นต้น! และเมื่อ
ได้รับการรับรองแล้ว ผืนน้ำเหล่านี้จะมอบโอกาสอันยอดเยี่ยมในการพัฒนาทักษะการดำน้ำของคุณให้ดี
ยิ่งขึ้น ตั้งแต่การถ่ายภาพใต้น้ำไปจนถึงการดำน้ำตอนกลางคืน
9. ประเทศไทย
‘ดินแดนแห่งรอยยิ้ม’ แห่งนี้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในหมู่นักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คและผู้ที่มีงบจำกัด บรรยากาศที่ผ่อนคลายชายหาดที่มีกำบังและแนวปะการัง
น้ำตื้นทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการดำน้ำของผู้เริ่มต้น นอกชายฝั่งตะวันออก
เกาะต่าง ๆ เช่น เกาะพะงันและเกาะเต่ามีชื่อเสียงในด้านการพบเห็นเต่าและแม้แต่ฉลามวาฬ ทางฝั่งตะวันตก
ในทะเลอันดามันเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับทริปเรือ Liveaboard ในขณะที่ภูเก็ตและกระบี่เป็น
ที่อยู่ของพันธุ์พืชและสัตว์เขตร้อนหลายร้อยชนิด เช่น กระเบน หมึก งูทะเลและฉลามเสือดาว
10. ประเทศฟิลิปปินส์
ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการเรียนดำน้ำอย่างแท้จริง เนื่องจากมีสิ่งมีชีวิตทางทะเลที่หลาก
หลายและอุดมสมบูรณ์ รวมถึงทิวทัศน์ใต้น้ำที่สวยงาม ประเทศนี้มีเกาะมากกว่า 7,000 เกาะมีแหล่ง
ดำน้ำที่หลากหลายซึ่งรองรับทุกระดับทักษะ ไม่ว่าคุณจะสนใจในการดำน้ำดูซากเรือ การดำน้ำบนแนว
กำแพงใต้น้ำ หรือการดำน้ำตามแนวปะการัง ฟิลิปปินส์มีทุกอย่างให้คุณ ไม่เพียงเท่านั้น ฟิลิปปินส์ยังเป็น
ที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลหายากและมีเอกลักษณ์หลากหลายสายพันธุ์ เช่น ฉลามหางยาว (Thresher Shark)
ฉลามวาฬ พะยูน และนูดิแบรนช์สีสันสดใส ด้วยน้ำทะเลที่ใสแจ๋ว สภาพการมองเห็นในน่านน้ำของ
ฟิลิปปินส์จึงยอดเยี่ยมที่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการถ่ายภาพใต้น้ำ
นอกจากนี้ การต้อนรับอย่างอบอุ่นของชาวฟิลิปปินส์ อาหารรสเลิศ และชายหาดที่สวยงามทำให้
ฟิลิปปินส์นั้นเป็นจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับการดำน้ำและการสำรวจความงามของโลก
ใต้น้ำ
11. ประเทศคอสตาริกา
หากคุณกำลังคิดที่จะเป็นผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำแบบสคูบา คุณจะตื่นเต้นที่ได้รู้ว่าคอสตาริกาเป็นหนึ่งใน
สถานที่ดำน้ำที่ดีที่สุดในโลก ประเทศที่สวยงามอย่างน่าทึ่งแห่งนี้มีสัตว์ทะเลที่หลากหลายและอุดมสมบูรณ์ ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับนักสำรวจใต้น้ำ หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับคอสตาริกาคือมี
ชายฝั่งทะเลสองแห่งคือมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลแคริบเบียนซึ่งแต่ละแห่งมอบประสบการณ์การ
ดำน้ำที่น่าตื่นเต้นและไม่เหมือนใคร
ชายฝั่งแปซิฟิกเป็นที่ตั้งของแนวปะการังสีสันสดใส แนวหินใต้น้ำ และแนวภูเขาไฟที่ดึงดูดสิ่งมีชีวิตใต้
ทะเลมากมาย เช่น ฉลาม กระเบนราหู และเต่าทะเล ในขณะเดียวกัน ชายฝั่งแคริบเบียนเป็นที่อยู่ของ
ปลาเขตร้อนหลายชนิด เช่น ปลานกแก้ว ปลาสาก และปลาไหลมอเรย์
ด้วยอุณหภูมิของน้ำที่อยู่ระหว่าง 26-30°C (79-86°F) นักดำน้ำจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับการดำน้ำที่
อบอุ่นและสบายได้ตลอดทั้งปี ป่าฝนริมชายฝั่งอันเขียวขจีและสัตว์ป่าที่มากมายบนบกทำให้เป็นการผจญ
ภัยบนบกที่น่าอัศจรรย์ ซึ่งจะเพิ่มความตื่นเต้นอีกระดับให้กับการเดินทางของคุณ โดยสรุปแล้วความงาม
ตามธรรมชาติที่น่าทึ่ง สัตว์ทะเลที่หลากหลาย และน้ำอุ่น ๆ ของคอสตาริกา ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลาย
ทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักดำน้ำที่ต้องการพัฒนาทักษะของพวกเขา
เรียนดำน้ำแบบสคูบา: ที่บ้านหรือที่จุดปลายทางในฝัน
ไม่แน่ใจใช่ไหมว่าคุณควรเรียนดำน้ำที่บ้านหรือสถานที่ในฝันแห่งใดแห่งหนึ่งที่กล่าวมา การตัดสินใจว่าจะ
เรียนดำน้ำที่ร้านดำน้ำใกล้ ๆ บ้านหรือไปเที่ยวพักผ่อนที่อื่นนั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล บางครั้งก็
ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย การเรียนที่ร้านดำน้ำใกล้บ้านมีข้อดีคือสามารถใช้เวลาเรียนจนจบหลักสูตรได้
มากกว่าและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย สิ่งนี้สามารถเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่รู้สึกสะดวกหรือสบายใจ
กว่าในการเรียนในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย
ในทางกลับกัน การเรียนดำน้ำในช่วงวันหยุดสามารถมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและโอกาสใน
การดำน้ำในสถานที่ใหม่ ๆ และที่น่าตื่นเต้น ทั้งสองตัวเลือกมีข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนกัน!
หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นดำน้ำที่ใด เราขอแนะนำให้ติดต่อร้านดำน้ำของ PADI เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
เล็กน้อยเกี่ยวกับพื้นที่ต่าง ๆ ร้านดำน้ำของ PADI มีพนักงานมืออาชีพมากประสบการณ์ที่สามารถช่วย
คุณเลือกสถานที่ที่ดีที่สุดตามความสนใจและระดับทักษะของคุณ พวกเขายังสามารถให้ข้อมูลที่มีประโยชน์
เกี่ยวกับสภาพการดำน้ำ สิ่งมีชีวิตในทะเล และเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมในท้องถิ่น ดังนั้น อย่าลังเลที่จะ
ติดต่อและขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญก่อนที่จะเริ่มการผจญภัยการดำน้ำแบบสคูบาของคุณ
ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะฝึกดำน้ำที่บ้านหรือในช่วงวันหยุดดีใช่ไหม ข่าวดีก็คือคุณไม่จำเป็นต้องเลือก
ขอคำแนะนำจากศูนย์ดำน้ำของ PADI ในท้องถิ่นของคุณและเพิ่มเวลาดำน้ำในน้ำอุ่น ๆ ให้สูงสุด นี่คือ
วิธีการ:
- ขั้นตอนที่ 1: เริ่มการเรียนใน “ห้องเรียน” ของคุณทางออนไลน์ด้วย PADI eLearning และทำการฝึก อบรมในสระว่ายน้ำใกล้ ๆ บ้านของคุณ
- ขั้นตอนที่ 2: จบการฝึกของคุณโดยการฝึกดำน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ (Open Water) สี่ได๊พ์กับครูผู้สอน ของ PADI ที่ใดก็ได้ในโลก
With a referral, you can take as much time as you need to get comfortable with your in-water skills. You’ll also get to enjoy more of your vacation exploring and relaxing rather than studying or stressing.
ด้วยใบอ้างอิง (Referrals) คุณสามารถใช้เวลามากเท่าที่คุณต้องการเพื่อทำความคุ้นเคยกับทักษะในน้ำของคุณ นอกจากนี้คุณยังจะได้เพลิดเพลินกับการสำรวจและพักผ่อนในช่วงวันหยุดมากกว่าการเรียนหรือความเครียด
พร้อมที่จะ Live Unfiltered (ใช้ชีวิตแบบไม่มีฟิลเตอร์) แล้วหรือยัง
การเป็นนักดำน้ำ PADI Open Water Diver เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของโลก
ใต้น้ำ ในฐานะนักดำน้ำที่ได้รับการรับรองแล้ว คุณจะมีโอกาสสำรวจสถานที่ดำน้ำใหม่ๆและค้นพบสิ่งมี
ชีวิตที่น่าหลงใหลที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทรของเรา นอกจากนี้ คุณจะได้รับการต้อนรับเข้าสู่ชุมชนนักดำน้ำ
ทั่วโลกที่แชร์ความหลงใหลในการสำรวจและการปกป้องสิ่งแวดล้อมทางทะเล
อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของการเป็นนักดำน้ำ PADI Open Water Diver คือความรู้สึกถึง
ความสำเร็จและการเติบโตส่วนบุคคลที่มาพร้อมกับการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ การเรียนดำน้ำจะต้องทำ
การฝึกฝนและมีความทุ่มเท แต่ความรู้สึกพึงพอใจที่มาพร้อมกับมันนั้นไม่มีอะไรมาเทียบได้ ไม่ว่าคุณจะ
กำลังมองหาการผจญภัย การผ่อนคลาย หรืองานอดิเรกใหม่ ๆ การเป็นนักดำน้ำ PADI Open Water
Diver สามารถเปิดโลกแห่งความเป็นไปได้ใหม่ ๆ เปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณมาเป็นนักดำน้ำและ
#LiveUnfiltered